ข่าวที่น่าสนใจ

    แสดง 161 - 180 จากทั้งหมด 345 ข้อมูล
  • เสนาธิการทหารอากาศสหรัฐฯ เดินทางเยือนเวียดนาม

    เสนาธิการทหารอากาศสหรัฐฯ เดินทางเยือนเวียดนาม

    เมื่อ ๒๐ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.ท.อาวุโส ฟาน วัน ซาง ประธานเสนาธิการกองทัพเวียดนาม และ รมช.กห.วน. ให้การต้อนรับ พล.อ.อ.David Goldfein เสธ.ทอ.สหรัฐฯ เมื่อ ๑๙ ส.ค.๖๒ ณ กรุงฮานอย โดย พล.ท.อาวุโส ฟาน วัน ซาง ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ที่กำลังมีมากเพิ่มขึ้น ตามกรอบของบันทึกความเข้าใจว่าด้วย ความร่วมมือด้านการทหาร ที่ลงนาม เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๔ และวิสัยทัศน์เวียดนาม – สหรัฐฯ พ.ศ.๒๕๕๘ ทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์ในความร่วมมือทวิภาคีด้านการทหาร เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือน การปรึกษาหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังสงคราม การค้นหาและช่วยเหลือ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การแพทย์ และการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ในส่วนของ พล.อ.อ. David Goldfein ได้เสนอแนะว่า ทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มการแลกเปลี่ยนการเยือน การให้คำปรึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความปลอดภัยการบิน ด้านยาและเวชภัณฑ์ การค้นหาและกู้ภัย การฝึกอบรมภาษาอังกฤษและการฝึกบิน นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีจะมีความเจริญรุ่งเรือง เพื่อประโยชน์ของแต่ละประเทศ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและในโลก---------------------------- ที่มา : http://www.mod.gov.vn/

    ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • สหรัฐฯเคารพสิทธิของเวียดนามในการปกป้องอธิปไตย

    สหรัฐฯเคารพสิทธิของเวียดนามในการปกป้องอธิปไตย

    เมื่อ ๑๙ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vnexpress.net ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.อ.อ.David Goldfein เสธ.ทอ.สหรัฐฯ และ พล.อ.อ Charles Brown Jr. ผบ.ทอ.ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ได้เดินทางเยือนกรุงฮานอย เมื่อวันอาทิย์ และวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พล.อ.อ. David Goldfein ได้กล่าวว่า “เราต้องการเคารพความเป็นผู้นำของเวียดนาม และสิทธิและอธิปไตยในการปกป้องดินแดนของตนเองยิ่งกว่าสิ่งใด ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่เราจะทำดีที่สุดคือทำงานร่วมกับรัฐบาลเวียดนาม และทำตามผู้นำของพวกเขา” โดยได้อ้างถึงการกลับมาของเรือสำรวจน้ำมัน Haiyang 8 ของจีน และรุกล้ำน่านน้ำเวียดนามในทะเลตะวันออก หรือที่รู้จักในระดับสากลว่า ทะเลจีนใต้ โดยเรือสำรวจและเรือผูคุ้มกัน ได้กลับเข้าไปยังเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และเขตไหล่ทวีปของเวียดนาม เมื่อ ๑๓ ส.ค.๖๒ ซึ่งเป็นระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากออกไป เมื่อ ๗ ส.ค.๖๒ โดยเรือสำรวจของจีนได้ละเมิดอาณาเขตทางทะเลของเวียดนามเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน ทั้งนี้ พล.อ.อ.Goldfein ได้อ้างถึงแถลงการณ์ เมื่อเดือนที่แล้วโดย นาย Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับเรือสำรวจจีนที่เข้ามาในน่านน้ำเวียดนาม โดยได้กล่าวโทษการละเมิดอำนาจอธิปไตยที่ถูกต้องของเวียดนาม ในขณะที่ยืนยันว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ทุกประเทศมีเสรีภาพในการเดินเรือในน่านน้ำสากล นอกจากนี้ พล.อ.อ. Charles Brown Jr. กล่าวว่า การกระทำของปักกิ่งในทะเลจีนใต้ขัดกับเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการรักษาภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่อิสระและเปิดกว้าง ในบางกรณีการกระทำของจีนส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของหลายประเทศในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ได้กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะหารือถึงทางเลือกที่แตกต่างกัน ระหว่างจีน และเวียดนาม รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยสหรัฐฯ จะส่งกำลังอากาศยานและเรือ เพื่อดำเนินการในพื้นที่ที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต การละเมิดน่านน้ำเวียดนามซ้ำอีกครั้งของจีนถูกประนาม โดย นาง เล ถิ ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เมื่อวันศุกร์ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการต่อต้านสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และได้ย้ำถึงอำนาจอธิปไตยและอำนาจที่ชัดเจนของเวียดนามเหนือน่านน้ำ ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) จีนควรนำเรือทั้งหมดออกจากน่านน้ำเวียดนาม เคารพอำนาจอธิปไตย เขตอำนาจศาลและสิทธิตามกฎหมาย และผลประโยชน์ทางกฎหมายอื่นๆ ตามอนุสัญญากฎหมายทะเล และกฎหมายระหว่างประเทศ ---------------------------- ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/news/us-respects-vietnam-s-right-to-protect-its-sovereignty-generals-3969581.html

    ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามประนามจีนในการรุกล้ำน่านน้ำของเรือสำรวจซ้ำแล้วซ้ำอีก

    เวียดนามประนามจีนในการรุกล้ำน่านน้ำของเรือสำรวจซ้ำแล้วซ้ำอีก

    เมื่อ ๑๖ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vnexpress.net ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า นาง เล ถึ ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า การละเมิดน่านน้ำเวียดนามซ้ำไปซ้ำมาของจีนนั้นเป็นการต่อต้านสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เนื่องจากเรือสำรวจน้ำมันของจีน ไฮหยาง ๘ และเรือคุ้มกันกลับเข้าสู่น่านน้ำเวียดนาม เมื่อวันอังคารที่ ๑๓ ส.ค.๖๒ หลังจากออกจากเขตเศรษฐกิจจำเพาะและเขตไหล่ทวีปเวียดนามไป เมื่อ ๗ ส.ค.๖๒ นอกจากนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ยังได้กล่าวแถลงการณ์ว่า เวียดนามมีอำนาจอธิปไตยและอำนาจเหนือน่านน้ำที่ชัดเจนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) รวมทั้งได้กล่าวว่าเวียดนามได้อธิบายความขัดแย้งกับจีนต่อการละเมิดที่ร้ายแรงเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ขอให้จีนนำเรือดังกล่าวทั้งหมดออกจากน่านน้ำเวียดนาม ในขณะที่เคารพอำนาจอธิปไตยเขตอำนาจศาลและสิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์ทางกฎหมายอื่น ๆ ตามอนุสัญญากฎหมายทะล และกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ทางการเวียดนามยังคงดำเนินการ เพื่อยืนยันอำนาจอธิปไตยและสิทธิอำนาจของประเทศตามกฎหมายท้องถิ่นและกฎหมายระหว่างประเทศ และเวียดนามให้ความสำคัญกับสันติภาพความมั่นคงและการเคารพกฎหมายในทะเลตะวันออกหรือที่รู้จักในระดับสากลว่าทะเลจีนใต้ และปรารถนาที่จะแก้ไขปัญหาข้อพิพาทด้วยวิธีสันติวิธี โดยเวียดนามเคารพและปรารถนาที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และเพื่อสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมทั้งย้ำว่า เวียดนามจะปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ทางกฎหมายอย่างถูกต้อง เวียดนามเรียกร้องให้ประเทศที่เกี่ยวข้อง และประชาคมระหว่างประเทศมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและความร่วมมือในทะเลตะวันออก ในภูมิภาคและในโลก ทั้งนี้ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ได้ปรากฎขึ้นในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ ๕๒ ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่าง ๒๙ ก.ค. – ๓ ส.ค.๖๒ โดย นาย ฟาม บิ่ง มิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม ได้ประณามกิจกรรมการสำรวจน้ำมันของจีน ในการประชุมอาเซียน โดยกล่าวว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย อำนาจอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของเวียดนามอย่างร้ายแรง ---------------------------- ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/news/vietnam-condemns-repeat-infringement-by-chinese-survey-vessel-3968762.html

    ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • อินเดียสร้างเรือตรวจการณ์ความเร็วสูง ๑๒ ลำให้กับเวียดนาม

    อินเดียสร้างเรือตรวจการณ์ความเร็วสูง ๑๒ ลำให้กับเวียดนาม

    เมื่อ ๑๖ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vnexpress.net ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า การก่อสร้างได้เริ่มงานในสัปดาห์นี้ใกล้กับเมืองเชนไนของอินเดีย โดยเป็นการสร้างเรือลาดตระเวนความเร็วสูง ๑๒ ลำ ให้กับหน่วยทหารชายแดนเวียดนาม ทั้งนี้เรือตรวจการณ์ชายฝั่งสร้างขึ้นภายใต้สัญญาที่ลงนามระหว่างหน่วยทหารชายแดนเวียดนาม และบริษัท Larsen & Toubro ของอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงเงินสินเชื่อของอินเดียมูลค่า ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ให้กับเวียดนาม ในช่วงการเดินทางเยือนอินเดียของ นาย เหงียน เติน สุง อดีตนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เมื่อ ต.ค.๕๗ คุณลักษณะของเรือได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการปกป้องอธิปไตยทางทะเล เสริมสร้างความมั่นคง และตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายในทะเล เช่น การลักลอบขนสินค้า การค้นหาและกู้ภัย โดยตัวเรือทำจากโลหะผสมอลูมิเนียม มีความยาว ๓๕ เมตร ความเร็วสูงสุด ๓๕ นอต ติดตั้งระบบเดินเรือและอาวุธที่ทันสมัย โดย ๕ ลำแรกจะถูกสร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือ Larsen & Toubro ในเมืองเชนไนของอินเดีย ส่วนที่เหลือจะสร้างที่อู่ต่อเรือ Hong Ha ในเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัท อินเดียจะรับผิดชอบการออกแบบและถ่ายทอดเทคโนโลยีของเรือทั้ง ๑๒ ลำ ทั้งนี้เวียดนามและอินเดียได้จัดตั้งการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี ๒๕๕๐ สำหรับพิธีการสร้างเรือได้จัดขึ้นเมื่อวันพุธ เพื่อเริ่มโครงการการ โดยมี พล.ต. Hoang Dang Nhieu รองผู้บัญชาการทหารชายแดนเวียดนามกล่าวว่าเวียดนามและอินเดียให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่าง ๆ และโครงการการต่อเรือคือส่วนสำคัญ โครงการเรือตรวจการณ์ความเร็วสูงนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านการทหารของเวียดนามและอินเดีย นอกจากนี้ พล.ร.ท.B Kannan อดีตนายทหารเรืออินเดียและซีอีโอของ บริษัท Larsen & Toubro Shipbuilding กล่าวว่า เวียดนามและอินเดียมีมิตรภาพที่ยาวนานและกำลังส่งเสริมความร่วมมือในหลายสาขารวมถึงการทหาร ---------------------------- ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/news/india-builds-12-high-speed-patrol-boats-for-vietnam-3968449.html

    ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามเสริมสร้างความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาผลกระทบจากสงคราม

    เวียดนามเสริมสร้างความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาผลกระทบจากสงคราม

    เมื่อ ๑๔ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.ท.อาวุโส เหงียน จิ วิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เสนอแนะให้หน่วยงานญี่ปุ่นประสานงานกับคณะกรรมการประสานงานระดับชาติของเวียดนาม ในการแก้ปัญหาระงับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ระเบิดหลังสงคราม และสารเคมีเป็นพิษตกค้าง โดยในระหว่างการต้อนรับ นาย Kunio Umeda เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศเวียดนาม เมื่อ ๑๓ ส.ค.๖๒ ณ กรุงฮานอย พล.ท.อาวุโส เหงียน จิ วิงห์ ได้กล่าวถึงการได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาลญี่ปุ่นและหน่วยงานต่างๆ ผ่านโครงการเกี่ยวกับการเก็บกู้ววัตถุระเบิดและการกวาดล้างทุ่นระเบิด การกำจัดสารพิษไดออกซิน นอกจากนี้เขายังเน้นถึงความช่วยเหลือในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือในการศึกษาและวิเคราะห์สารเคมีไดออกซินโดยไม่รับค่าตอบแทนของญี่ปุ่นต่อศูนย์ปฏิบัติการระดับประเทศเกี่ยวกับการเอาชนะสารเคมีที่เป็นพิษ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่าความร่วมมือด้านการทหารเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามและญี่ปุ่น ทั้งนี้เวียดนามและญี่ปุ่นได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูง การจัดประชุมนโยบายการป้องกันประเทศในระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ ความร่วมมือในการฝึกอบรมบุคลากรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ นอกจากนี้ พล.ท.อาวุโส เหงียน จิ วิงห์ ยังหวังว่าทั้งสองประเทศจะกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหารและให้ความสำคัญกับการเป็นหุ้นส่วนในการฝึกอบรม และการแก้ปัญหาผลกระทบจากสงครามของเวียดนาม ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมของเวียดนามได้ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความร่วมมือกับอาเซียน โดยเรียกร้องให้ญี่ปุ่นมีส่วนร่วมและสนับสนุนการริเริ่มของเวียดนาม รวมทั้งให้คำปรึกษาเวียดนามในฐานะประธานอาเซียนในการจัดการประชุมและกิจกรรมต่างๆ ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ ---------------------------- ที่มา : http://www.mod.gov.vn/

    ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • กลุ่มเรือสำรวจของจีนได้ออกจากเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม

    กลุ่มเรือสำรวจของจีนได้ออกจากเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม

    เมื่อ ๘ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vovworld.vn ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใน ๘ ส.ค.๖๒ ณ กรุงฮานอย นาง เล ถิ ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า วันนี้ครบรอบ ๕๒ ปีวันก่อตั้งองค์การอาเซียน ได้มีการเปิดสำนักงานใหม่ของคณะเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรือสำรวจไหหยาง 08 ของจีนที่มีการทำผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม นาง เล ถิ ทู หั่ง เผยว่า “ตามข่าวที่เราได้รับ เมื่อบ่ายวันที่ ๗ ที่ผ่านมา กลุ่มเรือสำรวจไหหยาง 08 ของจีนได้ยุติการสำรวจและออกจากเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่ของเวียดนามตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลปี ค.ศ.๒๕๒๕ โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเวียดนามได้เสนอมาตรการแก้ไขในทุกระดับและหลายรูปแบบตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล เวียดนามเรียกร้องให้ทุกประเทศให้ความเคารพอธิปไตย อำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาลที่สอดคล้องกับกฎหมายสากลของเวียดนาม เวียดนามยืนยันเจตนารมพร้อมที่จะหารือกับประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อมีส่วนร่วมธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและกระชับความร่วมมือมิตรภาพระหว่างประเทศต่างๆ” สำหรับความเห็นเกี่ยวกับมาตรการเพื่อป้องกันสินค้าจากต่างประเทศที่ปลอมแปลงในแหล่งกำเนิดของเวียดนามเพื่อประโยชน์ในการส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ เธอกล่าวว่า “เวียดนามป้องกันและจัดการกับการฉ้อโกงทางการค้าและที่มาอย่างฉับพลันในตลาดท้องถิ่นและการส่งออก กระทรวงได้ดำเนินการตามข้อเสนอของรัฐบาลอย่างจริงจังเพื่อเสริมสร้างการจัดการของรัฐเพื่อต่อสู้กับการทุจริตที่มา กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้ร่างกฎเกณฑ์เพื่อกำหนดในผลิตภัณฑ์เวียดนามและการปฏิบัติที่หลอกลวง กองกำลังศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้มแข็งในการกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบและจัดการกับการทุจริต” ---------------------------- ที่มา : http://vovworld.vn/en-US/news/chinas-vessels-halt-survey-in-vietnams-exclusive-economic-zone-773522.vov

    ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • ข้อมูลการปรับวางกำลังขีปนาวุธพิสัยกลางของสหรัฐฯ ในเอเซีย

    ข้อมูลการปรับวางกำลังขีปนาวุธพิสัยกลางของสหรัฐฯ ในเอเซีย

    เมื่อ ๙ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ https://en.nhandan.com.vn/ ได้เผยแพร่ข่าวสาร เมื่อ ๒ ส.ค.๖๒ แสดงให้เห็นถึงเป็นเครื่องหมายการล่มสลายของสนธิสัญญาควบคุมขีปนาวุธพิสัยกลาง ภาย หลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกอย่างเป็นทางการ และรัสเซียก็ยกเลิกความสมบูรณ์ของสนธิสัญญาประวัติศาสตร์นี้ทั้งนี้สนธิสัญญาควบคุมขีปนาวุธพิสัยกลาง ได้ลงนามโดยผู้นำสหรัฐฯ และโซเวียต เมื่อ ๘ ธ.ค.๓๐ และมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อ ๑ มิ.ย.๓๑ โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะไม่ผลิตทดสอบหรือแปรขีปนาวุธกลา งและระยะสั้นและขีปนาวุธล่องเรือ สนธิสัญญาดังกล่าวเป็นเกราะสำหรับการปกป้องความปลอดภัยของยุโรป ซึ่งจำกัดขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถทำการโจมตีแบบทำลายทั่วทั้งทวีปในเวลาน้อยกว่า ๖ นาที หลังจากลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวแล้วทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ ทำลายขีปนาวุธระยะสั้น และระยะกลางมากกว่า ๒,๖๐๐ ลูก ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งเสริมการควบคุมอาวุธในโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ และรัสเซียกล่าวหาว่าละเมิดสนธิสัญญาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ยังคงรักษาพันธสัญญาของตนไว้บางส่วนเป็นการจำกัด การคุกคามที่เป็นอันตราย การขัดแย้งเกี่ยวกับปัญหานี้ถึงจุดสูงสุดเมื่อ ต.ค.๖๑ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหาว่ารัสเซียละเมิดสนธิสัญญา โดยการผลิตขีปนาวุธ Novator 9M729 และ ๒ เดือนต่อมาทำเนียบขาวประกาศว่าเขาจะถอนตัวจากสนธิสัญญา หากมอสโกไม่ได้กลับไปปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใน ๖๐ วัน อย่างไรก็ตามรัสเซียยืนยันว่าจะไม่ทำลายขีปนาวุธ โดยอ้างว่าไม่ได้ละเมิดสนธิสัญญา ภายหลังจากการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาเพียงแค่วันเดียว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาที่จะวางขีปนาวุธพิสัยกลางใหม่ในเอเชีย ทั้งนี้การสิ้นสุดของสนธิสัญญาดังกล่าวได้จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเนื่องกับความปลอดภัยในระดับภูมิภาคและระดับโลก เมื่อเผชิญกับผลกระทบที่คาดเดาไม่ได้จากการล่มสลายของสนธิสัญญาดังกล่าว หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปฏิเสธว่าสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะปรับวางขีปนาวุธภาคพื้นดินในพื้นที่ของตน ---------------------------- ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/world/item/7787602-unpredictable-consequences.html

    ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาทหารนานาชาติ ครั้งที่ ๕

    เวียดนามเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาทหารนานาชาติ ครั้งที่ ๕

    เมื่อ ๔ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า เวียดนามได้ส่งกำลังทหารเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาทหารนานาชาติ ครั้งที่ ๕ ประจำปี ค.ศ.๒๐๑๙ ณ กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย โดยนาย วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวเปิดการแข่งขันผ่านจอภาพ ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรกที่เวียดนามส่งกำลังพลรวม ๑๒๗ นาย เข้าร่วมมหกรรมกีฬาทหารนานาชาติ ครั้งที่ ๕ หรือ Army Games 2019 ที่จัดขึ้นในระหว่าง ๓ – ๑๗ ส.ค.๖๒ ณ ประเทศรัสเซีย โดยเข้าร่วมการแข่งขันใน ๗ ประเภท เช่น รถถัง การกู้ภัยและเสนารักษ์ เป็นต้น และบริเวณสนามฝึกซ้อม Alabino ใกล้กับสถานที่จัดพิธีเปิดการแข่งขัน ในกรุงมอสโก ได้มีการจัดแสดงครัวสนามของกองทัพเวียดนาม ซึ่งในพื้นที่จัดแสดงได้มีการนำเสนอเอกสาร ภาพทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ครัวสนามเวียดนามและคณะศิลปะการทหาร นอกจากนี้ยังจัดแสดงสิ่งของทั่วไปของกองทัพเวียดนาม เช่น ชุดกระเป๋า หมวก โดยเฉพาะมีดผ่าตัดที่ผลิตใช้เองของทหารเวียดนาม เครื่องใช้ในครัวและกาน้ำชาที่ทำจากซากเครื่องบินข้าศึก ทั้งนี้ พันตรี เหงียน เทียน ดุง จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การทหารของเวียดนาม ได้กล่าวว่า การจัดแสดงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นเอกลักษณ์ของกองทัพเวียดนาม นอกจากนี้ยังยังนำเสนอคลิปวิดีโอที่แสดงถึงการพัฒนาและความสำเร็จของกองทัพเวียดนามในยามสงบ รวมถึงการมีส่วนร่วมของเวียดนามในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ---------------------------- ที่มา : https://en.qdnd.vn/military/intl-relations-and-cooperation/army-games-2019-officially-opens-508251

    ๖ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • กองทัพเรือเวียดนามจัดทำโครงการช่วยเหลือชาวประมง

    กองทัพเรือเวียดนามจัดทำโครงการช่วยเหลือชาวประมง

    เมื่อ ๒ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ www.nhandan.org.vn ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า เมื่อ ๒ ส.ค.๖๒ ณ นครดานัง ได้มีการลงนามในพิธีเปิดโครงการ "กองทัพเรือเวียดนามเป็นศูนย์กลางสำหรับชาวประมงที่จะออกทะเล" ในช่วงปี ๒๐๑๙ – ๒๐๒๐ โครงการดังกล่าวจัดโดย ภาคทหารเรือที่ ๓ ของกองทัพเรือเวียดนาม โดยประสานงานกับกรมวิชาการเกษตรและการพัฒนาชนบทของ ๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกว๋างบิ่ญ จังหวัดกว๋างจิ เถื่อเทียน-เว้ ดานัง กว๋างนาม และ กว๋างหงาย โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นที่การดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ ๔ ประการ ได้แก่ ประการแรกเพื่อเผยแพร่ให้ชาวประมงทราบถึง บทบาทความสำคัญของทะเล ข้อตกลงเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างเวียดนามและประเทศอื่น ๆ เอกสารทางกฎหมายของเวียดนามเกี่ยวกับทะเล และการแสวงประโยชน์และการจับปลาอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ประการที่สองการประสานงานกับภาคทหารเรือที่ ๓ ในการช่วยเหลือชาวประมงในทะเล ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเป็นอันตราย การค้นหาช่วยเหลือช่วยชาวประมง การช่วยชีวิต ประการที่สาม การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับทะเล รวมทั้งการคุ้มครองกิจกรรมทางกฎหมายของชาวประมง ปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของชาวประมงในทะเล สร้างเงื่อนไขให้ชาวประมงรู้สึกปลอดภัยและยึดมั่นกับการทำประมงในทะเลและการพัฒนาเศรษฐกิจ ประการที่สี่เผยแพร่ระดมระดมชาวประมงเพื่อเข้าร่วมกองทัพเรือ เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อสู้ ปกป้องอำนาจอธิปไตยทางทะเลเกาะและไหล่ทวีปของประเทศ ตามแผนและเอกสารทางกฎหมายของรัฐ ในโอกาสนี้ผู้จัดงานยังมอบของขวัญและธงประจำชาติ พวงชูชีพและเครื่องมือแพทย์ให้กับชาวประมง ๑๐๐ คนจาก ๖ จังหวัด นอกจากนี้เวปไซต์ nld.com.vn ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารในส่วนของภาคทหารเรือที่ ๕ มีการจัดพิธีเปิดโครงการดังกล่าว ณ จังหวัดก่าเมา เช่นเดียวกัน ---------------------------- ที่มา : https://www.nhandan.org.vn/xahoi/item/41080202-hai-quan-vung-3-lam-diem-tua-cho-ngu-dan-mien-trung-vuon-khoi-bam-bien.html/ https://nld.com.vn/bien-dao/phat-dong-chuong-trinh-hai-quan-viet-nam-lam-diem-tua-cho-ngu-dan-vuon-khoi-bam-bien-20190801190307335.htm

    ๕ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับเมียนมาร์

    เวียดนามเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับเมียนมาร์

    เมื่อ ๑ ส.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.ท.อาวุโส ฟาม หงอก มิงห์ รองประธานเสนาธิการ กองทัพประชาชนเวียดนาม ให้การต้อนรับ พล.ต.Thet Phone ผู้บัญชาการภาคทหารกรุงย่างกุ้ง กองทัพเมียนมาร์ เมื่อ ๒๙ ก.ย.๖๒ ณ กรุงฮานอย โดย พล.ท.อาวุโส ฟาม หงอก มิงห์ ถือว่าในภาพรวมเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเวียดนามและเมียนมาร์ ความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีด้านการทหารมีการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างกองบัญชาการทหารกรุงฮานอยและกองบัญชาการทหารกรุงย่างกุ้ง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการพัฒนาความร่วมมือทวิภาคี ด้านการทหาร รวมทั้งยืนยันว่า ผู้นำของกระทรวงกลาโหมและคณะเสนาธิการ กองทัพประชาชนเวียดนาม จะขยายความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายต่อไป ในส่วนของ พล.ต. Thet Phone ได้แสดงความประทับใจต่อการพัฒนาของกองทัพประชาชนเวียดนาม รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่าเมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งต้องการให้ฝ่ายเมียนมาร์ได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการเสริมสร้างกำลังของกองบัญชาการกรุงฮานอย ---------------------------- ที่มา : http://www.mod.gov.vn/

    ๓ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามปรับปรุงกองเรือพาณิชย์

    เวียดนามปรับปรุงกองเรือพาณิชย์

    เมื่อ ๓๑ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vovworld.vn ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า ภาคการขนส่งทางทะเลของเวียดนามยังคงรักษาอัตราการเจริญเติบโตด้านในการขนส่งทางทะเลโดยมีปริมาณสินค้าที่ขนส่งผ่านทางทะเลด้วยเรือสัญชาติเวียดนามกว่า ๘๑ ล้านตัน ในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๖ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมเจ้าท่าเวียดนาม (Vietnam Maritime Administration : VMA) ได้เปิดเผยว่า โครงสร้างของกองเรือพาณิชย์เวียดนามมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนเรือคอนเทนเนอร์ที่เพิ่มจาก ๑๙ ลำ ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ เป็น ๓๙ ลำในปี พ.ศ.๒๕๖๒ สำหรับอายุเฉลี่ยของเรือขนส่งสินค้าเวียดนามอยู่ที่ ๑๕.๖ ปี ซึ่งเรือใหม่กว่าจะมีอายุเฉลี่ยของเรือ ๕.๒ ปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเรือในโลก ๒๐.๘ ปี นอกจากนี้เครือบริษัทการเดินเรือของเวียดนาม หรือ Vinalines กำลังพิจารณาการลงทุนให้แก่เรือลำใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิงที่ทันสมัย และการประสานงานกับบริษัทท่าเรือและโลจิสติกส์ ในการออกแบบระบบให้บริการแบบครบวงจรเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ---------------------------- ที่มา : http://vovworld.vn/en-US/news/vietnam-modernises-shipping-fleet-771098.vov

    ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามและสหรัฐฯ ร่วมมือแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงคราม

    เวียดนามและสหรัฐฯ ร่วมมือแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงคราม

    เมื่อ ๑๙ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ควรร่วมมืออย่างแข็งขันกับกองทัพอากาศของเวียดนาม ในการลงทุนในโครงการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารไดออกซินที่สนามบิน Bien Hoa เพื่อให้การอนุมัติโครงการเสร็จสมบูรณ์ คำร้องขอดังกล่าว เกิดขึ้นโดย พล.ท.อาวุโส เหงียน จิ วิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม และหัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการยับยั้งผลกระทบของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ระเบิด (National Steering Committee on the Settlement of Consequences of Unexploded Ordnance : UXO) และสารเคมีเป็นพิษในเวียดนาม (หรือสำนักงาน 701) ในการประชุมกับ นาย Michael Greene ผู้อำนวยการ USAID ในเวียดนาม เมื่อ ๑๘ ก.ค.๖๒ ณ กห.วน. โดย พล.ท.อาวุโส วิง แนะนำว่าทั้ งสองฝ่ายควรกำหนดเทคโนโลยีในการบำบัดดินที่ปนเปื้อนสารไดออกซินในสนามบิน และนำเสนอวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบของสารไดออกซินต่อมนุษย์ในระหว่างการดำเนินโครงการดำเนินการสำรวจ ทั้งนี้ USAID และกองทัพอากาศเวียดนาม ได้รับการร้องขอให้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้สารไดออกซินแพร่กระจายออกไปนอกพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัยสำหรับคนในท้องถิ่น และเลือกเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรับรองประสิทธิภาพของงาน นอกจากนี้ พล.ท.อาวุโส วิง ขอให้ USAID ยังคงทำงานร่วมกับเวียดนาม เพื่อจัดประชุมระดับนานาชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับนานาชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อรักษาสันติภาพของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวาระ ค.ศ.๒๐๒๐ – ๒๐๒๑ สำหรับกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือคนพิการชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีสารไดออกซิน พล.ท.อาวุโส วิง ขอให้ USAID และ Office 701 รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการแห่งชาติสำหรับสารเคมีและการรักษาสิ่งแวดล้อม เร่งรัดการเจรจาเพื่อลงนามในข้อตกลงความช่วยเหลือแบบ (non-refundable aid agreement) ทั้งนี้ในการประชุมทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนผลลัพธ์ของกิจกรรมความร่วมมือในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยมีผลสำเร็จในการจัดประชุมหัวข้อ “การเอาชนะสงคราม : การปรองดองและความร่วมมือในอนาคตระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ” ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อ ๒๖ มี.ค.๖๒ ซึ่งมีส่วนช่วยให้นานาติได้เข้าใจถึงความสำเร็จของทั้งสองประเทศ พวกเขายังให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการฟื้นฟูสารปนเปื้อนไดออกซินระยะแรกที่สนามบิน Bien Hoa และลงนามในบันทึกความเข้าใจในการช่วยเหลือชาวเวียดนามที่มีความพิการ ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนที่มีสารปนเปื้อน ---------------------------- ที่มา : https://en.qdnd.vn/military/intl-relations-and-cooperation/vietnam-u-s-to-promote-war-aftermath-relief-507764

    ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำที่ละเมิดเขตทะเลของเวียดนาม

    เวียดนามเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำที่ละเมิดเขตทะเลของเวียดนาม

    เมื่อ ๒๐ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vovworld.vn ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า นาง เล ถิ ทู หั่ง โฆษกของเวียดนาม กล่าวเมื่อ ๑๙ ก.ค.๖๒ ระหว่างในการตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับท่าทีของเวียดนามต่อคำกล่าวปราศรัยของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อ ๑๗ ก.ค.๖๒ ที่ผ่านมาที่เกี่ยวข้องถึงความผันผวนในทะเลตะวันออก โดยย้ำว่า ในหลายวันที่ผ่านมา กลุ่มเรือสำรวจไหหยาง ๘ ของจีนได้ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามบริเวณทางด้านทิศใต้ของทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นอาณาเขตทางทะเลของเวียดนามตามข้อกำหนดของอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี ค.ศ.๑๙๘๒ ที่เวียดนามและจีนเป็นสมาชิก ทั้งนี้เวียดนามได้พูดคุยกับฝ่ายจีนผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้ง การส่งหนังสือคัดค้านและเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำที่ละเมิด และให้นำเรือทั้งหมดออกจากอาณาเขตทางทะเลของเวียดนาม รวมทั้งให้ความเคารพอำนาจอธิปไตยและสิทธิอำนาจศาลของเวียดนาม เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค กองกำลังที่บังคับใช้กฎหมายทางทะเลของเวียดนามจะปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องเขตทะเล อธิปไตย อำนาจอธิปไตย และสิทธิอำนาจศาลอย่างสันติ ดั่งเช่นคำยืนยันของเวียดนามเมื่อวันที่ ๑๖ ก.ค.๖๒ ที่ผ่านมา แนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนาม คือ ยืนหยัดการดำเนินการโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี ค.ศ.๑๙๘๒ เพื่อรับมือกับการกระทำที่ละเมิดอธิปไตย อำนาจอธิปไตยและสิทธิอำนาจศาลของเวียดนามในทะเลอาณาเขตตามข้อกำหนดในอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล นอกจากนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า การรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย สันติภาพ และความมั่นคงในทะเลตะวันออกเป็นผลประโยชน์ร่วมของประเทศต่างๆ และประชาคมโลก ดังนั้น เวียดนามมีความประสงค์ว่า ประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและประชาคมโลกจะมีส่วนร่วมปกป้องผลประโยชน์นี้ ---------------------------- ที่มา : http://vovworld.vn/en-US/news/vietnam-demands-china-to-end-violations-in-waters-767917.vov

    ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามจะมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยของเวียดนาม

    เวียดนามจะมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยของเวียดนาม

    เมื่อ ๑๖ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vnexpress.net ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า นาง เล ถิ ทู หั่ง โฆษกของเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามจะต่อสู้อย่างสันติ เพื่อต่อต้านการละเมิดอธิปไตยในทะเลตะวันออก (รู้จักกันทั่วไปคือ ทะเลจีนใต้) ทั้งนี้เวียดนามมีอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาลเหนือพื้นที่ในทะเลตะวันออก ตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ซึ่งลงนามในปี พ.ศ.๒๕๒๕ ดังนั้นกิจกรรมทั้งหมดของประเทศอื่น ๆ ในน่านน้ำของเวียดนาม จะต้องสอดคล้องกับอนุสัญญาและกฎหมายของเวียดนาม ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังกล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมทั้งหมดของประเทศต่าง ๆ ในน่านน้ำเวียดนาม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเวียดนามนั้นไร้ค่า และเป็นการละเมิดน่านน้ำตามกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาของสหประชาชาติ นโยบายของเวียดนาม คือ การดำเนินการอย่างสันติในการต่อสู้กับการกระทำใด ๆ ที่ละเมิดอธิปไตย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเวียดนามได้ใช้มาตรการอย่างสันติวิธี เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในน่านน้ำของตนต่อสู้เพื่อเคารพสิทธิและผลประโยชน์ทางกฎหมายของเวียดนาม โดยไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพื่อทำให้สถานการณ์ยุ่งยากขึ้น กองกำลังทางทะเลของเวียดนามได้ใช้อำนาจอธิปไตยและสิทธิอำนาจของตนอย่างสงบและถูกกฎหมายเพื่อปกป้องดินแดนของประเทศ ---------------------------- ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/news/vietnam-says-will-defend-sovereignty-in-its-waters-with-determination-3953535.html

    ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • เรือรบเวียดนามเดินทางเยือนรัสเซีย

    เรือรบเวียดนามเดินทางเยือนรัสเซีย

    เมื่อ ๑๗ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า เรือฟริเกต หมายเลขบ 016 - Quang Trung ของกองพลที่ ๑๖๒ ภาคทหารเรือที่ ๔ กองทัพเรือเวียดนาม ได้ออกเดินทางจากท่าเรือคัมรานห์ไปรัสเซีย เมื่อ ๑๗ ก.ค.๖๒ Ranh เพื่อเข้าร่วมสวนสนามทางเรือ เนื่องในโอกาสสถาปนาวันกองทัพเรือรัสเซีย ครั้งที่ ๓๒๓ ณ เมืองวลาดิวอสต็อค ประเทศรัสเซีย โดยตามกำหนดการจะเข้าเยี่ยมคารวะกองบัญชาการกองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ของเมืองวลาดิวอสต็อก รวมทั้งเข้าร่วมเทศกาลอาหารและวัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนกีฬา ในระหว่างการเยือนรัสเซีย จะเข้าร่วมในการสวนสนามทางเรือ และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเฉลิมฉลองวันกองทัพเรือรัสเซีย ---------------------------- ที่มา : https://en.qdnd.vn/military/intl-relations-and-cooperation/vietnamese-frigate-departs-for-russia-507690

    ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • รายงานข่าวสารเวียดนาม เวียดนามเข้าร่วมนิทรรศการทางเรือนานาชาติ ประจำปี ๒๕๒๖

    รายงานข่าวสารเวียดนาม เวียดนามเข้าร่วมนิทรรศการทางเรือนานาชาติ ประจำปี ๒๕๒๖

    เมื่อ ๑๓ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.ท.เหงียน เติน เกือง รอง ประธานเสนาธิการ กองทัพประชาชนเวียดนาม พร้อมด้วยคณะฯ เดินทางเข้าร่วมนิทรรศการทางเรือนานาชาติ ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๒ (The ninth International Maritime Defence Show : IMDS - 2019) ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระหว่าง ๑๐ – ๑๔ ก.ค.๖๒ โดยมีผู้แทน ๔๘ คน จาก ๓๕ ประเทศ และมีบริษัทอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าร่วมกิจกรรม มากกว่า ๓๕๓ บริษัทฯ ซึ่งในจำนวนนั้น มีบริษัทจากต่างประเทศรวม ๒๘ บริษัทฯ จาก ๑๙ ชาติ ในการนี้ รองประธานเสนาธิการกองทัพเวียดนาม และคณะ มีการพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของหลายบริษัทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของรัสเซีย อาทิ กลุ่มบริษัทผู้ส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศของรัสเซีย (Rosoboronexport) บริษัทอู่ต่อเรือ Almaz (บริษัทอุตสาหกรรมการต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และบริษัทผู้ผลิตอาวุธ Kalasnhikov ตลอดจนการเยี่ยมชมเรือพิฆาต Kasatonov อีกด้วย ---------------------------- ที่มา : https://en.qdnd.vn/military/intl-relations-and-cooperation/vietnam-joins-int-l-maritime-defence-show-in-russia-507583

    ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • การประชุมกรอบความร่วมมือนโยบายด้านการทหารระหว่างเวียดนามและอิตาลี

    การประชุมกรอบความร่วมมือนโยบายด้านการทหารระหว่างเวียดนามและอิตาลี

    เมื่อ ๑๑ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พลโทอาวุโส เบ๊ ซวน เจื่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม และนาย Angelo Tofalo ปลัดกระทรวงกลาโหมอิตาลี ได้เป็นประธานร่วมในการประชุมกรอบความร่วมมือนโยบายด้านการทหารระหว่างเวียดนามและอิตาลี ครั้งที่ ๓ เมื่อ ๑๐ ก.ค.๖๒ ณ กรุงฮานอย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์โลกและภูมิภาคที่ต่างให้ความสนใจ พร้อมทั้งเห็นพ้องในเนื้อหาและมาตรการขยายความร่วมมือในอนาคต โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของกลไกการกรอบความร่วมมือนโยบายด้านการทหารในระดับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมและกลุ่มปฏิบัติงานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหม เพิ่มการประสานงานและร่วมมือในเวทีพหุภาคี ดำรงความร่วมมือในด้านการฝึกอบรม โดยเฉพาะด้านภาษา ขยายความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ สร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแก้ไขผลกระทบจากกับระเบิดหลังสงครามในเวียดนาม และการแลกเปลี่ยนด้านเทคนิค เป็นต้น ในบ่ายวันเดียวกัน พลโทอาวุโส ฟาน วัน ซาง ประธานเสนาธิการกองทัพประชาชนเวียดนามได้ให้การต้อนรับ นาย Angelo Tofalo โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า การดำเนินการตามกรอบความร่วมมือต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ ความร่วมมือด้านการทหารระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สอดคล้องกับบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีด้านการทหารที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามกันเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๖ พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างสองประเทศจะได้รับการผลักดันให้กลายเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนามและอิตาลี ---------------------------- ที่มา : http://www.mod.gov.vn/

    ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามจะติดตามการทดลองยิงอาวุธปล่อยนำวิถีของจีนอย่างใกล้ชิด

    เวียดนามจะติดตามการทดลองยิงอาวุธปล่อยนำวิถีของจีนอย่างใกล้ชิด

    เมื่อ ๔ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vnexpress ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า เวียดนามได้เรียกร้องขอความพยายามในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในทะเลจีนใต้ หลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการทดลองยิงอาวุธปล่อยนำวิถีของจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า จีนได้ทดสอบการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือหลายลำใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ในช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ พ.อ. Dave Eastburn โฆษกกระทรวงกลาโหมเพนตากอนได้กล่าวว่า การทดลองดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเป็นการละเมิดแถลงการณ์ของประธานาธิบดีซีจินผิงของจีน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๘ และก่อนหน้านี้ China Maritime Safety Administration ประกาศว่า กองทัพเรือจีนจะทำการทดสอบยิงอาวุธปล่อยฯ ในพื้นที่ทางตอนเหนือของสแปรตลีย์ ตั้งแต่ ๒๙ มิ.ย. – ๓ ก.ค.๖๒ ขอให้เรือประมงทุกลำไม่ให้เดินทางเข้าในพื้นที่ ๒๒,๕๐๐ ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ นาง เล ถิ ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "เวียดนามมีความสนใจเป็นอย่างยิ่งและติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด" เวียดนามเรียกร้องให้ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำกิจกรรมต่างๆ ในทะเลจีนใต้ซึ่งเวียดนามเรียกว่าทะเลตะวันออก ต้องเคารพอำนาจอธิปไตยและสิทธิทางกฎหมายของประเทศ และตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ( UNCLOS) การดำเนินกิจกรรมต้องมีส่วนช่วยให้เกิดสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในภูมิภาค ทั้งนี้ประเทศจีนได้ใช้กำลังทางทหารเข้ายึดเกาะพาราเซลจากเวียดนาม ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ และครอบครองแนวปะการังจำนวนมากในหมู่เกาะสแปรตลีย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๑ อย่างไรก็ตามเวียดนามมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพื้นฐานทางกฎหมายอย่างครบถ้วน ในการยืนยันอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะพาราเซลและสแปรตลีย์ รวมทั้งน่านน้ำของตนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ---------------------------- ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/news/vietnam-says-keeping-close-watch-on-china-s-missile-tests-3947957.html

    ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • เวียดนามออกกฎหมายให้หน่วยยามฝั่งปฏิบัติงานนอกน่านน้ำเวียดนาม

    เวียดนามออกกฎหมายให้หน่วยยามฝั่งปฏิบัติงานนอกน่านน้ำเวียดนาม

    เมื่อ ๔ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ vietnamnews ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า พล.ท.เหงียน วัน เซิน ผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งเวียดนาม ได้กล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนนี้ว่า กฎหมายที่กำหนดอำนาจหน้าที่ การดำเนินงานและนโยบายสำหรับหน่วยยามฝั่ง รวมถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ออกเป็นกฎหมายใหม่นี้ มีความชัดเจนกว่ากฎหมายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๑ โดยมีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศของหน่วยยามฝั่งเวียดนาม ซึ่งสร้างกรอบทางกฎหมายที่เปิดกว้างและเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติหน้าที่หน่วยยามฝั่งของประเทศตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เวียดนามเป็นสมาชิก ทั้งนี้ตามปกติหน่วยยามฝั่งเวียดนามมีอำนาจในการต่อสู้และป้องกันการละเมิดน่านน้ำเวียดนาม การทำประมงผิดกฎหมาย การสำรวจวิจัยน้ำมัน ก๊าซ และแร่ธาตุ การลักลอบค้าขายและการขนส่งสินค้าที่ผิดกฎหมายในทะเล รวมถึงการปราบปรามโจรสลัดและปล้นเรือด้วยอาวุธ โดยในตอนที่ ๓ ของกฎหมายได้มีการกำหนดกฎระเบียบที่เฉพาะเจาะจง และชัดเจนเกี่ยวกับคำสั่ง ขั้นตอนและความสามารถของหน่วยยามฝั่งเวียดนาม ในแต่ละภารกิจ เช่น การลาดตระเวน การตรวจสอบ และการควบคุม การระดมเรือและกำลังพล การใช้สิทธิไล่ตามติดพันเรือในทะเล การใช้อาวุธ วัตถุระเบิด เครื่องมือสนับสนุน สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ทางเทคนิค การออกประกาศระดับความปลอดภัยทางทะเลและอื่นๆ ในกรณีมีจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ การประสานงาน การสนับสนุน และความช่วยเหลือจากหน่วยงาน บุคคลและองค์กร กฎหมายใหม่ได้กำหนดความรับผิดชอบและนโยบายสำหรับหน่วยงาน องค์กรและบุคคลที่จะเข้าร่วมประสานงาน ร่วมมือ สนับสนุนและช่วยเหลือ ซึ่งกำหนดให้มีการระดมเรือ กำลังพล เครื่องมือและอุปกรณ์ ในปัจจุบันกองบัญชาการหน่วยยามฝั่งกำลังพัฒนาแผนเพื่อรวบรวมจัดเรียงและปรับโครงสร้างศูนย์ฝึกอบรมของหน่วยยามฝั่งเวียดนามคาดว่าจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในไตรมาสที่สามของปี พ.ศ.๒๕๖๓ สำหรับกฎหมายใหม่นี้เป็นกฎหมายสูงสุดที่เป็นพื้นฐานในการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ตรงกับความต้องการในสถานการณ์ใหม่ อำนวยความสะดวกให้หน่วยยามฝั่งเวียดนามเพื่อปกป้องช่วยเหลือและสนับสนุนชาวเวียดนามในการประกอบกิจการทางทะเลอย่างถูกกฎหมาย และช่วยเหลือชาวประมงเวียดนามที่ปฏิบัติงานในน่านน้ำเวียดนามและน่านน้ำสากล อย่างไรก็ตามยังมีปัญหามากมายในการบังคับใช้กฎหมาย ประการแรกคือมีขอบเขตอำนาจหน้าที่ของหน่วยยามฝั่งที่กว้างขวาง ปัญหาของการฝึกอบรมด้านทรัพยากรมนุษย์ให้ทันสมัยเป็นเรื่องยาก และความยากอีกประการหนึ่งคือการดำเนินการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยยามฝั่งเวียดนาม และหน่วยงานของกระทรวงอื่นๆ รวมทั้งคณะกรรมการประชาชนของจังหวัด ---------------------------- ที่มา : https://vietnamnews.vn/opinion/522182/new-law-enables-viet-nam-coast-guard-to-operate-outside-vietnamese-waters.html

    ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒

  • การประชุมหน่วยทหารชายแดนระหว่างเวียดนามและจีน

    การประชุมหน่วยทหารชายแดนระหว่างเวียดนามและจีน

    เมื่อ ๑ ก.ค.๖๒ เว็ปไซต์ กห.วน. ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า หน่วยทหารชายแดนจังหวัดเกาบัง เวียดนาม และหน่วยทหารชายแดนมณฑลกวางสี ของจีน ได้ประชุมหารือทบทวนการประสานการปฏิบัติครั้งที่ ๒ ในรอบปี ซึ่ง ในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้มีการจัดประชุมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนที่ร่วมกัน ดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือที่ลงนามอย่างจริงจัง โดยทั้งสองฝ่ายได้จัดการลาดตระเวนร่วมกันจากหลักเขตแดนที่ ๗๓๐ ถึงหลักเขตแดนที่ ๗๓๔ และหลักเขตแดนที่ ๗๓๗ ถึงหลักเขตแดนที่ ๗๔๒ ในการเจรจาทั้งสองหน่วยตกลงที่จะดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือชายแดนซึ่งจัดทำโดยกระทรวงกลาโหมเวียดนามและจีนที่ได้มีการลงนามร่วมกัน รวมถึงรายงานการประชุมหารือ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะจัดให้มีการประชุมหารือและการลาดตระเวนร่วมกัน การประสานงานอย่างใกล้ชิดในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นตามกฎหมายของแต่ละประเทศ และให้ความรู้แก่ทหารและประชาชนตามแนวชายแดนร่วมกัน สร้างความมั่นคงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน ---------------------------- ที่มา : https://en.qdnd.vn/military/intl-relations-and-cooperation/vietnamese-chinese-border-guards-hold-regular-talks-507194

    ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๒